…….นี่คือสิ่งที่เรายึดถือเป็นกฎว่า จะต้องทำให้ชาเขียวไทยหอมอร่อยจนสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ ซึ่งการผลิตชาเขียวไทยให้หอมอร่อย จึงไม่ใช่แค่การเก็บใบชาแล้วอบ แต่จะต้องคิดและทำแบบเดียวกับงานฝีมือแห่งการเบลนด์ชาชั้นยอด ที่เรา ตรายอดชา เชี่ยวชาญและทํามันได้ดี จนตอนนี้สามารถส่งออกไปได้ในหลายประเทศทั่วโลก และยังผลิตให้กับหลายแบรนด์ในประเทศไทย

…….ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าที่ต้นชาเขียวบนภูเขาสูงจังหวัดเชียงใหม่จะให้ผลผลิตที่สมบูรณ์แบบพร้อมเก็บเกี่ยว อดทนและเฝ้ารอ ตัดแต่งต้นชาในช่วงปลายฤดูหนาว
แล้วจึงเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิเมื่อต้นชาเขียวเริ่มผลิยอดอ่อน เคล็ดลับของเราคือ เก็บเกี่ยวยอดอ่อนที่สดใหม่ช่วงที่ต้นชาผลิยอดอ่อนใหม่ๆ เท่านั้น และถึงแม้ว่าเราจะผลิตเพื่อการส่งออกจํานวนมาก แต่การเก็บเกี่ยวยังคงทำด้วยมือแบบดั้งเดิม เนื่องจากเครื่องจักรอาจทำให้ใบอ่อนเสียหายได้ และทําให้ชาเขียวมีรสที่ขมฝาดมากเกินไป จากนั้นจะเว้นช่วงไปทุกๆ 7-15 วัน จึงจะสามารถเก็บได้อีกครั้งหนึ่ง

…….จากชาเขียวเชียงใหม่บนภูเขา กลายเป็นสินค้าและเมนูซิกเนเจอร์ต้นตํารับของเรา ‘กรีนทีลาเต้เชียงใหม่’ ที่ให้สีเขียวพาสเทลอ่อนละมุน รสชาติเข้มตามเอกลักษณ์ของชาเขียวแท้ เป็นความเข้มแบบลุ่มลึกนุ่มนวล อันเกิดจากกรรมวิธีการผลิต ‘วัตถุดิบหลักตั้งต้น’ แบบเชียงใหม่ดั้งเดิม ที่แต่เดิมนั้นต้องอบด้วยเตาดินเผาที่ปั้นจากดินแม่นํ้าปิงที่อุดมไปด้วยสินแร่ธาตุธรรมชาติ ผสมผสานกรรมวิธีแบบญี่ปุ่นโบราณ แล้วขนย้ายวัตถุดิบหลักนําเข้าสู่โรงงานของเราเองที่กรุงเทพ ซึ่งได้รับมาตรฐานสูงสุด GMP , HACCP ,ISO ต่อไป

จากกระบวนการทั้งหมดนั้น จึงได้ชื่อว่า เราเป็นผู้ควบคุม ผลิต ดูแลทุกขั้นตอนด้วยตัวเองตั้งแต่บนภูเขาจนบรรจุถุง และนําไปให้บาริสต้าในคาเฟ่ได้รังสรรค์เป็นเมนูต่างๆ เพื่อให้คุณได้ดื่มชาเขียวที่ดีที่สุดของเรา พร้อมมอบคุณประโยชน์ที่ดีจากธรรมชาติอย่างแท้จริง